คนนิจิวะ
สวัสดีค่ะ ในวันนี้เราจะมาเปิดหัวข้อ Comedy กันอีกครั้งค่ะทุกคน
หลังจากไม่ได้มาในหมวดนี้กันสักพักแล้วนะคะ
สำหรับวันนี้เรามีตำนานเรื่องเล่าของประเทศญี่ปุ่นมาเล่าให้ทุกคนฟังกันค่ะ
เป็นเรื่องจริงที่เกิดขึ้นมานานมากแล้ว
และยังเป็นเรื่องที่ทุกคนยังจำได้มาจนถึงทุกวันนี้
เรื่องราวในวันนี้เป็นตำนานที่เกิดขึ้นช่วงสงครามโลกครั้งที่
2 ในปี 1945 ได้กลายเป็นข่าวใหญ่โตไปทั่วโลก
จากการถูกทิ้งระเบิดปรมาณูที่เมืองฮิโรชิมา เป็นเรื่องที่เชื่อมโยงกับเด็กหญิงคนหนึ่งที่บ้านถูกพังพินาศจากการระเบิด
◆◇◆◇◆◇◆◇◆◇◆◇◆◇◆◇◆◇◆◇◆◇◆◇◆◇◆
“ 佐々木 禎子 ”
ซาซากิ ซาดาโกะ เกิดเมื่อวันที่ 7
มกราคม ค.ศ 1943 เธอเป็นลูกสาวของครอบครัวช่างตัดผม ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2
พ่อของซาดาโกะถูกเกณฑ์ไปทำงานที่โรงพยาบาลทหาร
และเมื่อวันที่ 6 สิงหาคม คศ. 1945 ก็เกิดเรื่องที่น่าสะพรึงกลัวกับประเทศญี่ปุ่น
ถูกทิ้งปรมาณูลงมาที่เมืองฮิโรชิมา อยู่ในช่วงที่ซาดาโกะอายุได้ 2 ขวบพอดี
ซึ่งบ้านของเธอนั้นอยู่ห่างจากระเบิดในระยะทาง 1.7 กิโลเมตร
บ้านของทุกคนที่อยู่ละแวกนั้นได้รับความเสียหายพังพินาศจากลมแรงของระเบิด
ทำให้ถูกพลัดกระเด็นไปไกล แต่โชคดีที่ซาดาโกะไม่ได้รับบาดเจ็บแต่อย่างไร
ในช่วงระหว่างที่เธออพยพหนีออกจากเมืองนั้น ซาดาโกะอยู่ในชั้นประถมที่ 6
ได้เข้ารับการตรวจสุขภาพ เพื่อเช็คความปลอดภัยของร่างกายจากเหตุระเบิดปรมาณู
ซึ่งผลตรวจออกมาไม่พบความผิดปกติใดๆ แต่หลังจากนั้นสามเดือน เธอกลับป่วยเป็นหวัด
มีก้อนเนื้อบวมที่ด้านหลัง ลำคอ และกกหู เดือนกุมภาพันธ์
เธอได้เข้ารับการตรวจร่างกายที่ศูนย์วิจัยขององค์กร คณะกรรมาธิการผู้ประสบภัยจากปรมาณูที่เมืองฮิโรชิมา
หลังจากที่ผ่านเหตุการณ์ทิ้งระเบิดปรมาณูได้ปีเศษ
ก็พบว่าซาดาโกะป่วยเป็นมะเร็งเม็ดเลือดขาว
เธอจึงได้เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลกาชาด ในวันที่ 21 กุมภาพันธ์ ปี 1995
ซึ่งซาดาโกะมีความเชื่อว่าถ้าหากเธอได้พับนกกระเรียนถึง 1,000 ตัว
เธอก็จะหายป่วยเป็นปกติ
แต่เมื่อเวลาผ่านเลยไป ช่วงปลายเดือนตุลาคม
อาการของเธอก็หนักขึ้นเรื่อยๆ เท้าข้างซ้ายได้บวมขึ้นกว่าปกติ 1.5 เท่า
และกลายเป็นสีแดงอมม่วง ทำให้เธอเจ็บปวดทรมานจนไม่สามารถนอนได้
พ่อของซาดาโกะช่วยกระตุ้นให้เธอมีความอยากอาหาร เธอจึงเอ่ยว่าอยากทานข้าวราดน้ำชา
พ่อเธอจึงไปซื้อข้าวและราดด้วยน้ำชาตามที่เธออยากทาน เมื่อพ่อของซาดาโกะป้อนคำแรกให้เธอทาน
เธอก็พูดออกมาเบาๆ ว่าอร่อย และเมื่อซาดาโกะได้ทานคำที่สอง
เธอก็ได้หลับตาลงแล้วจากไปอย่างสงบท่ามกลางครอบครัวซาซากิของเธอเอง
เมื่อถึงวันงานศพของซาดาโกะ
ครอบครัวของเธอได้นำนกกระเรียนที่ซาดาโกะเป็นคนพับมาใส่ในโรงศพของเธอ
และนำส่วนที่เหลือมาแจกให้กับแขกที่มาร่วมงาน
และในเวลาต่อมาได้มีการสร้างรูปปั้นของซาดาโกะ
เด็กผู้หญิงที่ชูมือขึ้นเหนือศีรษะโดยมีนกกระเรียนอยู่บนมือทั้งสองข้าง
และสลักข้อความไว้ว่า “จะไม่ทำให้เด็กๆ เป็นเหยื่อของระเบิดปรมาณูอีก”
ข้อความนี้เปรียบเสมือนเสียงของเด็กๆ ที่เสียชีวิตจากเหตุการณ์ในครั้งนั้น
“นี่คือเสียงขอร้องของพวกผม / นี่คือเสียงขอร้องของพวกหนู” ที่ต้องการจะเห็นสันติของโลกใบนี้
และไม่ต้องการให้เกิดเหตุการณ์ไม่ดีที่ทำให้เด็กๆ เสียชีวิตลงเหมือนพวกเธอ
รูปปั้นของซาซากิ ซาดาโกะ
อยู่ในสวนสันติภาพที่เมืองฮิโรชิมา และทุกๆ วันที่ 6 สิงหาคมของทุกปี
จะมีการนำนกกระเรียนพับมาวางที่สวนสันติภาพตรงรูปปั้นของซาดาโกะ
เพื่อเป็นการแสดงถึงสันติภาพ
◆◇◆◇◆◇◆◇◆◇◆◇◆◇◆◇◆◇◆◇◆◇◆◇◆◇◆
“ 千羽鶴「せんばづる」”
นกกระเรียนพันตัว
การพับกระดาษให้เป็นรูปนกกระเรียน
เปรียบเสมือนการให้กำลังใจผู้ป่วย
เป็นการอวยพรขอให้มีอายุยืนยาว
# --------------------------------------------------------- #
เป็นยังไงกันบ้างคะ?
การตำนานแห่งซาดาโกะกับนกกระเรียน
ถือว่าเป็นต้นกำเนิดเรื่องราวนกกระเรียนพันตัวเลยก็ว่าได้นะคะ
แล้วกลับมาพบกันใหม่บทความหน้านะคะ
โปรดติดตามข้อมูลใหม่ๆ ของประเทศญี่ปุ่นที่เราจะมาแนะนำให้อีกนะคะ
อ่อ ! มีกิจกรรมให้ร่วมสนุกลุ้นรับรางวัลแน่นอน !
แอดมาเลยค่ะ ตามนี้ ฟิ้วว ~ [ LINE@ : @yumebi ]
- つづく -
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น