17 กันยายน 2559

สันติภาพจากนกกระเรียนของเด็กผู้หญิงคนหนึ่ง




คนนิจิวะ



สวัสดีค่ะ ในวันนี้เราจะมาเปิดหัวข้อ Comedy กันอีกครั้งค่ะทุกคน
หลังจากไม่ได้มาในหมวดนี้กันสักพักแล้วนะคะ



สำหรับวันนี้เรามีตำนานเรื่องเล่าของประเทศญี่ปุ่นมาเล่าให้ทุกคนฟังกันค่ะ
เป็นเรื่องจริงที่เกิดขึ้นมานานมากแล้ว และยังเป็นเรื่องที่ทุกคนยังจำได้มาจนถึงทุกวันนี้




เรื่องราวในวันนี้เป็นตำนานที่เกิดขึ้นช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ในปี 1945 ได้กลายเป็นข่าวใหญ่โตไปทั่วโลก จากการถูกทิ้งระเบิดปรมาณูที่เมืองฮิโรชิมา เป็นเรื่องที่เชื่อมโยงกับเด็กหญิงคนหนึ่งที่บ้านถูกพังพินาศจากการระเบิด







◆◇◆◇◆◇◆◇◆◇◆◇◆◇◆◇◆◇◆◇◆◇◆◇◆◇◆







佐々木 禎子

     ซาซากิ ซาดาโกะ เกิดเมื่อวันที่ 7 มกราคม ค.ศ 1943 เธอเป็นลูกสาวของครอบครัวช่างตัดผม ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 พ่อของซาดาโกะถูกเกณฑ์ไปทำงานที่โรงพยาบาลทหาร



     และเมื่อวันที่ 6 สิงหาคม คศ. 1945 ก็เกิดเรื่องที่น่าสะพรึงกลัวกับประเทศญี่ปุ่น ถูกทิ้งปรมาณูลงมาที่เมืองฮิโรชิมา อยู่ในช่วงที่ซาดาโกะอายุได้ 2 ขวบพอดี ซึ่งบ้านของเธอนั้นอยู่ห่างจากระเบิดในระยะทาง 1.7 กิโลเมตร บ้านของทุกคนที่อยู่ละแวกนั้นได้รับความเสียหายพังพินาศจากลมแรงของระเบิด ทำให้ถูกพลัดกระเด็นไปไกล แต่โชคดีที่ซาดาโกะไม่ได้รับบาดเจ็บแต่อย่างไร



     ในช่วงระหว่างที่เธออพยพหนีออกจากเมืองนั้น  ซาดาโกะอยู่ในชั้นประถมที่ 6 ได้เข้ารับการตรวจสุขภาพ เพื่อเช็คความปลอดภัยของร่างกายจากเหตุระเบิดปรมาณู ซึ่งผลตรวจออกมาไม่พบความผิดปกติใดๆ แต่หลังจากนั้นสามเดือน เธอกลับป่วยเป็นหวัด มีก้อนเนื้อบวมที่ด้านหลัง ลำคอ และกกหู เดือนกุมภาพันธ์ เธอได้เข้ารับการตรวจร่างกายที่ศูนย์วิจัยขององค์กร  คณะกรรมาธิการผู้ประสบภัยจากปรมาณูที่เมืองฮิโรชิมา




   หลังจากที่ผ่านเหตุการณ์ทิ้งระเบิดปรมาณูได้ปีเศษ ก็พบว่าซาดาโกะป่วยเป็นมะเร็งเม็ดเลือดขาว เธอจึงได้เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลกาชาด ในวันที่ 21 กุมภาพันธ์ ปี 1995 ซึ่งซาดาโกะมีความเชื่อว่าถ้าหากเธอได้พับนกกระเรียนถึง 1,000 ตัว เธอก็จะหายป่วยเป็นปกติ


   แต่เมื่อเวลาผ่านเลยไป ช่วงปลายเดือนตุลาคม อาการของเธอก็หนักขึ้นเรื่อยๆ เท้าข้างซ้ายได้บวมขึ้นกว่าปกติ 1.5 เท่า และกลายเป็นสีแดงอมม่วง ทำให้เธอเจ็บปวดทรมานจนไม่สามารถนอนได้ พ่อของซาดาโกะช่วยกระตุ้นให้เธอมีความอยากอาหาร เธอจึงเอ่ยว่าอยากทานข้าวราดน้ำชา พ่อเธอจึงไปซื้อข้าวและราดด้วยน้ำชาตามที่เธออยากทาน เมื่อพ่อของซาดาโกะป้อนคำแรกให้เธอทาน เธอก็พูดออกมาเบาๆ ว่าอร่อย และเมื่อซาดาโกะได้ทานคำที่สอง เธอก็ได้หลับตาลงแล้วจากไปอย่างสงบท่ามกลางครอบครัวซาซากิของเธอเอง




     เมื่อถึงวันงานศพของซาดาโกะ ครอบครัวของเธอได้นำนกกระเรียนที่ซาดาโกะเป็นคนพับมาใส่ในโรงศพของเธอ และนำส่วนที่เหลือมาแจกให้กับแขกที่มาร่วมงาน


     และในเวลาต่อมาได้มีการสร้างรูปปั้นของซาดาโกะ เด็กผู้หญิงที่ชูมือขึ้นเหนือศีรษะโดยมีนกกระเรียนอยู่บนมือทั้งสองข้าง และสลักข้อความไว้ว่า “จะไม่ทำให้เด็กๆ เป็นเหยื่อของระเบิดปรมาณูอีก” 


     ข้อความนี้เปรียบเสมือนเสียงของเด็กๆ ที่เสียชีวิตจากเหตุการณ์ในครั้งนั้น “นี่คือเสียงขอร้องของพวกผม / นี่คือเสียงขอร้องของพวกหนู” ที่ต้องการจะเห็นสันติของโลกใบนี้ และไม่ต้องการให้เกิดเหตุการณ์ไม่ดีที่ทำให้เด็กๆ เสียชีวิตลงเหมือนพวกเธอ




     รูปปั้นของซาซากิ ซาดาโกะ อยู่ในสวนสันติภาพที่เมืองฮิโรชิมา และทุกๆ วันที่ 6 สิงหาคมของทุกปี จะมีการนำนกกระเรียนพับมาวางที่สวนสันติภาพตรงรูปปั้นของซาดาโกะ เพื่อเป็นการแสดงถึงสันติภาพ











◆◇◆◇◆◇◆◇◆◇◆◇◆◇◆◇◆◇◆◇◆◇◆◇◆◇◆








千羽鶴「せんばづる」

นกกระเรียนพันตัว


การพับกระดาษให้เป็นรูปนกกระเรียน
เปรียบเสมือนการให้กำลังใจผู้ป่วย
เป็นการอวยพรขอให้มีอายุยืนยาว










# --------------------------------------------------------- #



เป็นยังไงกันบ้างคะ?
การตำนานแห่งซาดาโกะกับนกกระเรียน
ถือว่าเป็นต้นกำเนิดเรื่องราวนกกระเรียนพันตัวเลยก็ว่าได้นะคะ




แล้วกลับมาพบกันใหม่บทความหน้านะคะ 
โปรดติดตามข้อมูลใหม่ๆ ของประเทศญี่ปุ่นที่เราจะมาแนะนำให้อีกนะคะ




อ่อ ! มีกิจกรรมให้ร่วมสนุกลุ้นรับรางวัลแน่นอน !
แอดมาเลยค่ะ ตามนี้ ฟิ้วว ~ [ LINE@ : @yumebi ]






つづく







ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น