10 กรกฎาคม 2559

การแต่งงานที่น่าหลงใหลกับความคลาสสิกจากอดีตสู่ปัจจุบัน




คนนิจะวะมินะซะมะ



สวัสดีค่ะ กลับมาพบกันอีกครั้งกับ Japan Dream News 
คลังสำหรับคนรักญี่ปุ่น ครบถ้วนทุกเรื่องราว 
ที่เราจะนำเสนอแต่เนื้อหาสาระที่มีหัวข้อหลักมากมายหลากหลายกันไป



ในวันนี้เราจะนำศิลปะโบราณที่ยังดำรงสืบทอดกัน
ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันให้กับทุกคนได้รับรู้กันนะคะ






◆◇◆◇◆◇◆◇◆◇◆◇◆◇◆◇◆◇◆◇◆◇◆◇◆◇◆





ศิลปะอันโบราณนี้ที่ไม่ว่ายังไงคุณก็ยังสามารถเห็นได้ตามศาลเจ้าในประเทศญี่ปุ่นอย่างล้นหลาม เพราะเป็นพิธีที่ได้รับความนิยมและความประทับใจเป็นอย่างมาก







พิธีที่เรากำลังพูดถึงกันอยู่นั่นคือ พิธีแต่งงาน ค่ะ ซึ่งในปัจจุบันนั้นมีพิธีแต่งงานแบบตะวันตกเข้ามา น้อยคนนักที่จะจัดพิธีแต่งงานแบบดั้งเดิมที่เราจะนำเสนอในวันนี้







พิธีแต่งงานแบบดั้งเดิมที่เราพูดถึงกันอยู่ คือ พิธีแต่งงานแบบดั้งเดิมของศาสนาชินโตค่ะ หรือที่เรียกกันว่า ชินเซ็นชิคิ ในภาษาญี่ปุ่นออกเสียงว่า神前式「しぜんしき」(Shinzen shiki)








ชินเซ็นชิคิ เป็นพิธีแต่งงานแบบดั้งเดิมของศาสนาชินโตที่มีความสวยงามในความศักดิ์สิทธิ์และพิธีกรรม ที่เข้ามาในช่วงปี 1990








เป็นพิธีที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว 
ที่เจ้าบ่าวและเจ้าสาวจะสวมใส่ชุดแต่งงานแบบดั้งเดิมของศาลเจ้าชินโต 









ซึ่งเจ้าสาวนั้นจะสวมใส่เป็นชุดกิโมโนสีขาว 
หรือที่เรียกว่า ชิโรมุคุ 
ในภาษาญี่ปุ่นจะเขียนว่า 白無垢「しろむく」(Shiromuku) นั่นเองค่ะ





รูปแบบของชุดชิโรมุคุจะเป็นสีขาวทั้งชุด ให้ความบริสุทธิ์ของหญิงสาวผู้นั้น ว่ากันว่าที่ชุดเจ้าสาวชิโรมุคุเป็นสีขาวนั้น เขาต้องการจะสื่อความหมายที่ว่า เจ้าสาวคนนั้นพร้อมที่จะย้อมตัวเองให้เป็นสีเดียวกับสีของครอบครัวทางฝ่ายเจ้าบ่าวค่ะ






◆◇◆◇◆◇◆◇◆◇◆◇◆◇◆◇◆◇◆◇◆◇◆◇◆◇◆






ก่อนที่จะมีการเริ่มพิธีจริง จะต้องมีการซ้อมพิธีแต่งงานอยู่หลายครั้ง โดยการจัดงานจะเน้นการจัดแบบใหญ่โต ใช้งบประมาณที่สูงพอสมควร เพื่อให้เป็นเกียรติแก่คู่บ่าวสาวและครอบครัว






แล้วสิ่งสำคัญภายในงานที่ขาดไม่ได้เลยก็คือ สินสอด หรือในภาษาญี่ปุ่นจะเรียกกันว่า โกชูกิ (Goshugi) ที่มักจะให้กันเป็นของที่มีความหมายมงคลอย่างเช่น กิโมโน และ โอบิ มากกว่าเงินทองตามแบบฉบับในปัจจุบัน แต่ซึ่งภายหลังก็นิยมให้กันเป็นเงินทองแทน






สินสอดนี้มักจะส่งให้กับเจ้าสาวล่วงหน้า หรือจะให้ในวันจัดงานเลยก็เช่นกัน โดยไม่มีการกำหนดว่าสินสอดจะต้องมีมูลค่าเท่าใด แต่จะเป็นการคำนวณจากเงินเดือนของเจ้าบ่าวและบวกเพิ่มเข้าไปอีก 2 – 3 เท่า ซึ่งฝ่ายเจ้าสาวเองนั้นก็จะมอบของตอบแทนที่มีมูลค่าครึ่งหนึ่งของสินสอดกลับไปให้ทางฝ่ายเจ้าบ่าวด้วยเช่นกัน






◆◇◆◇◆◇◆◇◆◇◆◇◆◇◆◇◆◇◆◇◆◇◆◇◆◇◆






เมื่อถึงวันแต่งงาน ผู้ที่เข้าร่วมพิธีจะมีแค่เพียง พ่อแม่ พี่น้อง และญาติเท่านั้น ในพิธีจะมีหัวหน้านักบวชของชินโต หรือที่เรียกว่า คันนูชิ (Kannushi) เป็นผู้ประกอบพิธีกรรมที่ศาลเจ้า บ่าวสาวจะต้องชำระล้างร่างกายให้สะอาดบริสุทธิ์เรียกว่า ฮาไร (Harai) ด้วยน้ำบริสุทธิ์จากศาลชินโต หรือที่เรียกว่า น้ำมิโซกิ (Misogi) และหลีกเลี่ยงที่จะทำตัวให้สกปรก เพราะต้องบริสุทธิ์สดใสในพิธี






จากนั้นบ่าวสาวต้องเขียนวาทะสัญญาด้วยตัวเอง ว่าจะรักและซื่อสัตย์ต่อกันไปจนตาย โดยมีพ่อแม่และญาติพี่น้องร่วมเป็นสักขีพยาน แต่ใบวาทะสัญญานั้นไม่ใช่การจดทะเบียนสมรส เป็นเพียงเครื่องเตือนใจเท่านั้น








พิธีดำเนินต่อโดยหญิงสาวโสดสวมกิโมโนสีแดง หรือที่เรียกว่า มิโกะ (Miko) ผู้ทำหน้าที่รับใช้เทพเจ้าที่ศาลชินโต จะสักการบูชาเทพเจ้าโดยการโค้งคำนับ 2 ครั้ง ในระหว่างพิธีเจ้าบ่าวและเจ้าสาวจะต้องจ้องตากัน และจิบสาเกจากถ้วย 3 ใบ ใบละ 3 ครั้ง 









หลังจากจิบครั้งที่ 1 ทั้งสองได้ถือว่าเป็นคู่สมรส และเมื่อครบทั้ง 9 ครั้งแล้ว ทั้งสองจะต้องบรรจงวางถ้วยลงบนพื้นให้พร้อมกัน เพื่อเป็นเคล็ดให้เคียงคู่กันตลอดไป












# --------------------------------------------------------- #


เป็นยังไงกันบ้างคะ?
พิธีแต่งงานในรูปแบบชินโตที่มีเอกลักษณ์และความศักดิ์สิทธิ์ในตัว
จากพิธีกรรมที่ได้ประกอบขึ้น จากความรักของคนสองคน



แล้วกลับมาพบกันใหม่บทความหน้านะคะ
โปรดติดตามข้อมูลใหม่ๆ ของประเทศญี่ปุ่นที่เราจะมาแนะนำให้อีกนะคะ


อ่อ ! มีกิจกรรมให้ร่วมสนุกลุ้นรับรางวัลแน่นอน !
แอดมาเลยค่ะ ตามนี้ ฟิ้วว ~ [ LINE@ : @yumebi ]



つづく








( แหล่งที่มา : http://www.แต่งงานกัน.com/2190.html , http://www.we-mag.com/only-on-web/world-wide-wed/พิธีแต่งงานญี่ปุ่น/ )

1 ความคิดเห็น: