คนนิจิวะ ~~
สวัสดีค่ะ !
หัวข้อในวันนี้กลับมาเจอกันอีกครั้งที่ Love & Psychology นะคะ
ตอนนี้เรายังอยู่ในส่วนของเมืองเกียวโต
ประเทศญี่ปุ่นนะคะ
เมืองที่เป็นต้นกำเนิดของชาเขียวที่เป็นที่นิยมอย่างมาก
ในประเทศญี่ปุ่นและในประเทศไทยของเรานะคะ
และอีกอย่างหนึ่งที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในประเทศญี่ปุ่น
ที่มีชื่อเสียงอย่างล้นหลามก็คือ ศาลเจ้าหรือวัดในประเทศญี่ปุ่น นั้นเองค่ะ
ในสัปดาห์ที่แล้วนั้น เราได้พูดถึงศาลเจ้าแห่งหนึ่ง
เป็นศาลเจ้ายอดนิยมที่คนไทยชอบไปท่องเที่ยวและถ่ายรูปมาเป็นจำนวนมาก
เพราะความสวยงามของศาลเจ้าแห่งนั้น ซึ่งคือศาลเจ้าเทพอินาริ หรือ ศาลเจ้าจิ้งจอก
นั้นเองค่ะ
สำหรับวันนี้ที่เราจะแนะนำเป็นหนึ่งในวัดที่มีชื่อเสียงโด่งดังที่สุดของประเทศญี่ปุ่น
มีความแปลกตาจากความสวยงามของตอนกลางคืนด้วยไฟที่ประดับตามต้นไม้และอาคารของวัด
ซึ่งให้ความแตกต่างจากจากตอนกลางวันโดยสิ้นเชิง
◆◇◆◇◆◇◆◇◆◇◆◇◆◇◆◇◆◇◆◇◆◇◆◇◆◇◆
“ 音羽山清水寺 ”
◆◇◆◇◆◇◆◇◆◇◆◇◆◇◆◇◆◇◆◇◆◇◆◇◆◇◆
วัดคิโยะมิซุ หรือวัดน้ำใส
ที่เลื่องชื่อในประเทศญี่ปุ่น
มีความเชื่ออันศักดิ์สิทธิ์เพราะเป็นน้ำที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติจากน้ำตกโอโตวะ (Otowa Waterfall)
วัดแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นในปี ค.ศ. 780 แถมยังได้รับการบันทึกจากยูเนสโก้ให้เป็นมรดกโลกอีกด้วย
เสาของอาคารมีความสูงถึง 13 เมตรจากพื้นดิน
และโถงอาคารถูกสร้างให้ยื่นออกมาภายนอก
ทำให้บริเวณนั้นเป็นจุดชิวที่สวยงามที่สุด
เพราะสามารถมองเห็นเมืองเกียวโตได้ทุกฤดู
และในจุดนี้กลายเป็นจุดชมดอกซากุระและชมใบไม้แดงที่เป็นใบไม้ขึ้นชื่อของเมืองเกียวโต
◆◇◆◇◆◇◆◇◆◇◆◇◆◇◆◇◆◇◆◇◆◇◆◇◆◇◆
วัดคิโยะมิซุมีแผนที่ในการบอกจุดหมายปลายทางในการเดินชมรอบวัดและไปอาคารอื่นๆ
ได้อีกด้วย
◆◇◆◇◆◇◆◇◆◇◆◇◆◇◆◇◆◇◆◇◆◇◆◇◆◇◆
“ 仁王門「におうもん」”
1. Nio - mon
ในจุดนี้เป็นทางเข้าหลักของวัดคิโยะมิซุ
ถูกสร้างขึ้นใหม่ในช่วงต้นศตวรรษที่ 16 ในปี 2003 ประตูถูกแยกออกจากกัน แต่ได้รับการตกแต่งอย่างดีที่งดงามกับขนาดมาตรฐานที่มีความกว้างประมาณ
10 เมตร ความสูงประมาณ 14 เมตร แสดงถึงคุณสมบัติที่เป็นเอกลักษณ์ของยุคนั้น
“ 西門「さいもん」”
2. Sai-mon (West gate)
อาคารหลังนี้มีทัศนียภาพที่งดงามของพระอาทิตย์ตก
ที่ได้รับเลือกให้เป็นประตูสู่สวรรค์
อีกทั้งยังรู้จักกันว่าเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของการปฏิบัติสมาธิ
สถานที่แห่งนี้เสมือนเป็นดินแดนบริสุทธิ์
“ 随求堂「ずいぐどう」”
3. Zuigu-do Hall
ปัจจุบันอาคารนี้คือว่าเป็นภาพหลักของพระโพธิสัตว์
ซึ่งสามารถได้ยินความปรารถนาและแรงบันดาลใจของทุกคนได้ ถือว่าเป็นพลังอำนาจอันศักดิ์สิทธิ์
“ 本堂「ほんどう」”
4. Hondo (Main Hall)
สำหรับสถานที่นี้เป็นเหมือนฮอล์ลหลักของวัดคิโยะมิซุเลยค่ะ
ตั้งอยู่บนหน้าผาสูงชันของภูเขาโอโตวะ (Otowa Mountain)
ใช้ไม้เป็นโครสร้างของตัวอาคารที่มีชื่อเสียง
“ 奥の院「おくのいん」”
5. Okuno-in Hall
ระเบียงขนาดใหญ่สูง 13 เมตร มีเสาไม้กว่าร้อยต้นรองรับ สร้างยื่นออกจากด้านข้างของเนินเขา
จากระเบียงนี้สามารถมองเห็นทิวทัศน์ที่สวยงามของเมืองเกียวโตได้ วลีที่กล่าวว่า
"กระโดดจากระเบียงวัดคิโยะมิซุ" ซึ่งหมายความว่า ตัดสินใจกะทันหัน
หรือกล้าตัดสินใจ วลีนี้มีที่มาจากความเชื่อในสมัยเอโดะที่ว่า หากผู้ใดสามารถกระโดดจากระเบียงวัดแล้วสามารถรอดชีวิตได้
ความปรารถนาของผู้นั้นจะสัมฤทธิ์ผล
“ 音羽の滝「おとわのたき」”
6. Otowa no taki (Otowa Waterfall)
จุดเด่นอีกอย่างหนึ่งของวัดคิโยะมิซุก็คือสถานที่แห่งนี้
น้ำตกโอโตวะ (Otowa Waterfall) เป็นสายน้ำ
3 สายไหลลงสู่บ่อน้ำ ผู้มาเยี่ยมชมวัดมักจะมาดื่มน้ำจากน้ำตกนี้ด้วยถ้วยโลหะ ด้วยความเชื่อว่าสามารถบำบัดรักษาโรคภัยไข้เจ็บได้
และยังเชื่อกันว่าการดื่มน้ำจากสายน้ำตกทั้ง 3 นี้ มีความหมายถึงสุขภาพ ความรัก และความสำเร็จในการศึกษา
“ 成就院「じょうじゅいん」”
7. Jojuin
และสถานที่สุดท้าย
ถูกสร้างขึ้นเพื่อเป็นที่อยู่อาศัยให้กับพระสงฆ์ที่ได้อุทิศตัวเองให้กับวัดคิโยะมิซุ
อาคารนี้มีชื่อเสียงในสวนดวงจันทร์ที่งดงามสมชื่อ
ซึ่งจะเปิดให้เข้าชมเป็นพิเศษในระยะเวลาที่จำกัดในแต่ละปี
# --------------------------------------------------------- #
เป็นยังไงกันบ้างคะ?
วัดคิโยะมิซุน่าไปใช่มั้ยคะ?
เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่น่าหลงใหลพร้อมความเชื่อมากมาย
ไหนจะน้ำตกสามสายที่มีความเชื่อที่แตกต่างกันไป
ใครได้ไป อย่าลืมไปยืนชมวิวเมืองเกียวโตตรงระเบียงวัดด้วยนะคะ
แล้วกลับมาพบกันใหม่บทความหน้านะคะ
โปรดติดตามข้อมูลใหม่ๆ ของประเทศญี่ปุ่นที่เราจะมาแนะนำให้อีกนะคะ
อ่อ ! มีกิจกรรมให้ร่วมสนุกลุ้นรับรางวัลแน่นอน !
แอดมาเลยค่ะ ตามนี้ ฟิ้วว ~ [ LINE@ : @yumebi ]
- つづく -
( แหล่งที่มา : http://www.kiyomizudera.or.jp/ , http://www.talonjapan.com/kiyomizu-dera/
)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น